เจ้าของบ้านร้องจ๊าก ! เจอบิล “ค่าไฟย้อนหลัง 7.4 ล้าน” เหตุผู้เช่าค้างจ่าย ขโมยไฟหลวงใช้ #ถกไม่เถียง

เจ้าของบ้านตะลึง ! เจอการไฟฟ้าเก็บค่าไฟย้อนหลังกว่า 7.4 ล้านบาท เหตุผู้เช่าลักลอบขโมยไฟหลวงไปใช้ขุดบิตคอยน์ ซึ่งเกิดเหตุตั้งแต่ปี 2565 แต่ยังจับตัวคนผิดไม่ได้ เจ้าของบ้านยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กังวลว่าจะต้องมารับผิดในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำ ช็อตเด็ด นาทีเดือด! 00:00 เจ้าของบ้านร้องจ๊าก! เจอบิล “ค่าไฟย้อนหลัง 7.4 ล้าน” เหตุผู้เช่าค้างจ่าย ขโมยไฟหลวงใช้ 01:20 เจ้าของบ้านปล่อยเช่าช่วงโควิค ผู้เช่าอ้างจะเปิดร้านอาหาร 03:00 DSI ตรวจสอบพบ บ้านหลังนี้ขุดบิตคอยน์ และผู้เช่าหายตัวไป!ติดต่อไม่ได้ 08:00 เจ้าของบ้านแจ้งว่าสัญญาเช่าหายไปหมดแล้ว 15:20 การไฟฟ้าให้ข้อมูลกับทีมงานว่าไม่กล้าให้ข้อมูลใดๆ กลัวมีผลกับรูปคดี 16:40 DSI แจ้ง มีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเดินสายไฟให้แก่ผู้ลักเช่าไฟหลวง! 24:10 ทนายสงกาญ์แนะ อย่าเซนต์หนังสือรับสภาพหนี้ ! วันที่ 9 ม.ค. 67 คุณคทาธร อู่วัฒนสกุล (แม็ก) เจ้าของบ้านเช่า ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา ว่า ผู้เช่ารายนี้เป็นคนไทยเข้ามาเช่าบ้านในช่วง มี.ค. 64 โดยอ้างว่าจะมาเปิดร้านอาหาร แต่จากนั้นช่วง ธ.ค. 66 ตนได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าว่ามีการลักลอบใช้ไฟหลวง เพื่อขุดบิตคอยน์ และค้างค่าไฟกว่า 7.4 ล้านบาท ยอมรับว่าตนไม่เคยเข้าไปตรวจดูว่าผู้เช่าได้เปิดร้านอาหารจริงหรือไม่ เนื่องจากขณะนั้นมีโรคโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง และผู้เช่าจ่ายค่าเช่าตรงตามกำหนดทุกเดือน แต่ความแตกเมื่อเกิดเหตุหม้อแปลงระเบิด ทำให้การไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบ จึงพบว่ามีการลักลอบต่อไฟเข้าบ้านอย่างผิดกฎหมาย และพบว่ามีเครื่องขุดบิตคอยน์กว่า 30 เครื่องอยู่ในบ้าน หลังจากที่ได้รับเอกสารแจ้งค้างชำระค่าไฟจากการไฟฟ้ากว่า 7.4 ล้านบาท ทำให้ตนรู้สึกเครียดมาก เนื่องจากผู้เช่าได้ย้ายออกไปแล้วและเอกสารการเช่าหายไป จึงไม่รู้ว่าจะต้องไปตามตัวคนผิดมารับผิดชอบอย่างไร ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสังเกตมุมกฎหมายว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่สั่งฟ้องผู้เช่าตั้งแต่ที่สอบสวน แต่กลับมาแจ้งค่าไฟที่ค้างอยู่กับเจ้าของบ้านหลังจากเวลาผ่านมาเป็นปีแล้ว ยืนยันว่าเจ้าของบ้านถ้าหากไม่มีส่วนรู้เห็นกับผู้เช่าที่ลักลอบใช้ไฟก็จะไม่มีความผิด ถ้าหากมีหลักฐานหรือชื่อของผู้เช่าก็สามารถใช้เอาผิดกับผู้เช่าได้ การไฟฟ้าจะต้องฟ้องผู้เช่าที่ลักลอบใช้ไฟ ไม่ใช่ฟ้องเจ้าของบ้านเช่า หรือผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้า ยืนยันว่าเจ้าของบ้านไม่มีความผิดอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่มีเอกสารหลักฐานการเช่าบ้านก็สามารถตรวจสอบการเงินย้อนหลังได้ แนะนำให้เจ้าของบ้านไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเป็นพยานได้ เพราะคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ การไฟฟ้านครหลวงชี้แจ้งว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และกำลังดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ขอไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพราะอาจส่งผลต่อรูปคดี ด้าน DSI ชี้แจงว่า ได้ขยายผลไปจนทราบตัวผู้เช่าที่ลักลอบใช้ไฟฟ้าแล้ว พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือให้ผู้เช่าก่อเหตุขโมยไฟฟ้าใช้ ขณะนี้ได้ดำเนินการสอบสวน และให้การไฟฟ้าไปเรียกเก็บค่าไฟฟ้าย้อนหลังกับผู้เช่าแล้ว สนับสนุนโดย Probac7 โพรไบโอติกมีชีวิต 50,000 CFU/ซอง จาก Interpharma รายละเอียดเพิ่มเติม Click : probac.co/ #ถกไม่เถียง #TERODigital #Ch7HDNews ---------- ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 Facebook: www.facebook.com/TERODigital/ Twitter: twitter.com/TERO_Digital YouTube: youtube.com/c/TERODIGITAL TikTok: www.tiktok.com/@terodigital Instagram: www.instagram.com/terodigital

• #news_politics
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #7
• #74
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #
• #