J-20 Chengdu เครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหนสุดล้ำจีน

DedTongDon
DedTongDon
550.9 هزار بار بازدید - 2 سال پیش - สนับสนุนเด็ดต้องโดนง่ายๆ- Subscribe:
สนับสนุนเด็ดต้องโดนง่ายๆ
- Subscribe: https://www.seevid.ir/c/DedTongDon?...
- Like/ Comment
- สมาชิกเด็ดต้องโดน: dedtongdon

เครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหนคือความล้ำหน้าทางอากาศ ที่ถูกผูกขาดโดยอเมริกามานาน เป็นสิบปี จนในที่สุดจีนก็สามารถพัฒนา J-20 Chengdu ตามมาเป็นประเทศที่สองจนสำเร็จ
0:00 J-20 Chengdu เครื่องบินล่องหนสุดล้ำจีน
0:13 จุดเริ่มต้น J-20 Chengdu
1:45 การออกแบบ J-20 Chengdu
3:03 เปรียบเทียบ J-20 กับ F-22 และ F-35 แบบตัวต่อตัว
5:11 ความล้ำหน้าของ J-20 Chengdu
9:24 อนาคตของ J-20 Chengdu

จุดเริ่มต้น J-20 Chengdu
หลังจากที่อเมริกาประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหนสุดล้ำ อย่าง F-22 Raptor เพื่อเข้าประจำการในปี 2005 และ F-35 Lightning II ในปี 2015
ทำให้จีนต้องทุ่มงบประมาณมหาศาลเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อคานอำนาจเหนือน่านฟ้า เกิดเป็นโครงการ J-XX ที่ต้องการพัฒนาเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหน พร้อมเครื่องยนต์เจ็ท ระบบ Thrust Vectoring ซึ่งปรับทิศทางของแรงขับได้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถพอที่จะต่อกรกับ F-22 Raptor ได้แบบสมน้ำสมเนื้อ
จนในที่สุดกลายเป็น รุ่น J-20 Chengdu ซึ่งมีชื่อเล่นเท่ๆ ว่า Mighty Dragon หรือเจ้ามังกรผยองเดช เริ่มเข้าประจำการในปี 2017 กลายเป็นเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหนรุ่นที่ 3 ของโลก ตามหลัง F-35 Lighting II มาติดๆ เพียงแค่ 2 ปี
ซึ่งระหว่าง J-20 กับ F-35 เคยเจอกันแบบตัวต่อตัวมาแล้วหลายครั้งที่ทะเลจีนตะวันออก และนายพล Gen. Kenneth Wilsbach ผู้บัญชาการกองทัพอากาศแปซิฟิกของอเมริกา  ค่อนข้างประทับใจกับเครื่องบินขับไล่ล่องหน J-20 เลยครับ

การออกแบบ J-20 Chengdu
J-20 Chengdu เป็นเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหน แบบที่นั่งเดียว 2 เครื่องยนต์ พัฒนาโดย บ. Chengdu Aircraft Industry
ซึ่งมีการออกแบบเหมือนรวมเอาข้อดีของสุดยอดเครื่องบินหลายรุ่น เช่น F-22 Raptor, F-35 Lightning II ของอเมริกาและ Mig 1.44 เอาไว้ด้วยกัน เป็นหนึ่งเดียว กลายเป็น J-20 ที่มีลำตัวยาวเป็นพิเศษ
มีปีกเสริมขนาดเล็ก หรือ Canard ติดอยู่ด้านหน้า ช่วยควบคุมแรงยกส่วนหัวเพื่อรักษาสมดุลย์ให้กับเครื่องบินที่มีลำตัวยาว เพิ่มความคล่องแคล่วในการบิน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อบินเร็วเหนือเสียง ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้ Canard กับเครื่องบินสุดเจ๋งมาแล้วหลายรุ่น เช่น Eurofighter Typhoon  และ Su-33

เปรียบเทียบ J-20 กับ F-22 และ F-35 แบบตัวต่อตัว
ถ้าหากเราเปรียบเทียบเรื่องความสามารถในการบินระหว่าง J-20 Chengdu ของจีน กับ F-22 Raptor และ F-35 Lighting II ของอเมริกาแบบตัวต่อตัวจะเห็นได้ว่า
J-20 Chengdu นั้นดูเหมือนจะแซงหน้า F-35 Lighting II อยู่หลายขุม แต่ยังคงเป็นรอง F-22 Raptor อยู่ โดยเฉพาะเรื่องเครื่องยนต์เจ็ท ซึ่งจีนเองก็รู้ตัวดีว่ายังเป็นรองเยอะ ทำให้พยายามชดเชยส่วนต่าง โดยออกแบบให้ J-20 บินได้ไกลกว่าหลายเท่า เพื่อที่จะสามารถทำภารกิจได้ไกลกว่า หรืออยู่บนฟ้าได้นานกว่า โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

ความล้ำหน้าของ J-20 Chengdu
นอกจาก J-20 Chengdu ในปัจจุบันจะมีความสามารถในการบินได้อย่างเร้าใจแล้ว ยังเป็นเครื่องบินที่รวมเทคโนโลยีสุดเจ๋งเอาไว้มากกมายดังนี้
1 ระบบช่วยมองแบบอิเล็กทรอนิกส์ Electro optical Distributed Aperture System (DAS)
2 ระบบแสดงผลอัจฉริยะ
J-20 มีจอดิจิตอลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ ให้นักบินใช้ได้อย่างสะดวก พร้อม จอ heads-up display (HUD) ขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลต่างๆ เป็นภาพเสมือน เพื่อให้นักบินเห็นข้อมูลต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
หมวกนักบินของ J-20  pilot helmet เป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในประเทศจีน โดยใช้เทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR
3 ระบบอาวุธ
มีช่องเก็บขีปนาวุธด้านล่างของลำตัว ได้ 4 ลูก
สำหรับขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ พิสัยไกล เช่น AAM  PL-21 ที่ยิงได้ใกลถึง 400 กม.
หรือขีปนาวุธแบบอากาศสู่พื้น เช่น PGM  LS-6/100 ซึ่งเป็นระเบิดที่มีน้ำหนัก 100 กก.
และมีช่องเก็บขีปนาวุธด้านข้างของลำตัว ได้ 2 ลูก
4 ระบบล่องหน หรือ Stealth
ระบบพรางตัว หรือ Stealth เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวช้าที่สุด
ด้วยการออกแบบให้เครื่องบินมีรูปทรงพิเศษเพื่อใช้ในการหักเหคลื่นเรดาร์ ทำให้เรดาร์ที่แพร่คลื่นออกมาไม่ได้รับสัญญาณสะท้อนกลับ และใช้วัสดุหรือสารเคลือบผิวที่มีคุณสมบัติพิเศษทำหน้าที่ดูดซับคลื่นเรดาร์
5 ระบบเครื่องยนต์
J-20 Chengdu เป็นเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหน ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับ เครื่องยนต์เจ็ทรุ่นใหม่ล่าสุดของจีน รุ่น WS-15 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสามารถสร้างแรงขับให้ได้ถึงเครื่องยนต์ละ 18,144 กก.
เพื่อจะเป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่มีความสามารถในการพรางตัวสูง แล้วช่วยให้ J-20 บินเร็วเหนือเสียงได้โดยไม่ใช้ Afterburner ซึ่งเรียกคุณสมบัตินี้ว่า Supersonic Cruise
และมีความแรงมากกว่า เครื่องยนต์เจ็ทของ Pratt & Whitney รุ่น F119-PW100 ซึ่งใช้กับ F-22 Raptor ถึง 12.5%

อนาคตของ J-20 Chengdu
ในปัจจุบัน 2022 มี J-20 เข้าประจำการแล้วจำนวน 150 ลำ และมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 500 ลำในปี 2025 เพื่อถ่วงดุลอำนาจบนพื้นที่เหนือน่านฟ้า รอบประเทศจีน ที่มีเครื่องบินขับไล่ล่องหน ของอเมริกา และรัสเซีย ประจำอยู่
แถมจีนกำลังพัฒนา J-20S ให้กลายเป็นเครื่องบินเจ็ทขับไล่ล่องหน แบบ 2 ที่นั่งรุ่นแรกของโลก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ J-20 Chengdu ขึ้นไปอีกขั้น

1 การสื่อสาร ติดตาม ตรวจสอบ และวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ
2 การใช้อาวุธล้ำยุค ที่อาจติดตั้งเพิ่มเติม เช่น ระบบอาวุธเลเซอร์ Directed Energy Weapons (DEWs) อย่าง LW-30 ที่ยิงได้ไกลถึง 25 กม. ในเวลาแค่ 6 วินาที
3 รวมถึงการควบคุมอากาศยานไร้คนขับ Unmanned Aerial Vehicle UAV อย่าง GJ- 11 Sharp Sword เพื่อให้เป็นไปตามตำราการครองน่านฟ้าและการรบในยุคอนาคต ที่สูสีกับอเมริกาได้เลย
2 سال پیش در تاریخ 1401/08/22 منتشر شده است.
550,988 بـار بازدید شده
... بیشتر